ทฤษฎีการเรียนรู้แบบร่วมมือ
(Theory of
Cooperative or Collaborative Learning)
อัชรา เอิบสุขสิริ. (2550 : 94-96). ความหมายและแนวคิดของการเรียนรู้แบบร่วมมือCooperative
and Collaborative Learning หรือ การเรียนรู้แบบร่วมมือ
เป็นคำที่มีความหมายใกล้เคียงกัน
เพราะมีลักษณะเป็นกระบวนการเรียนรู้เป็นแบบร่วมมือ ข้อแตกต่างระหว่าง Cooperative
Learning กับCollaborative Learning อยู่ที่ระดับความร่วมมือที่แตกต่างกัน
Sunyoung, J. (2003) ได้สรุปว่า
ความแตกต่างที่เห็นได้ชัดเจนระหว่าง Cooperative Learning กับ
Collaborative Learning คือ เรื่องโครงสร้างของงานอัน ได้แก่
Pre – Structure , Task – Structure และ Content
StructureโดยCooperative Learning จะมีการกำหนดโครงสร้างล่วงหน้ามากกว่า
มีความเกี่ยวข้องกับงานที่มีการจัดโครงสร้างไว้เพื่อคำตอบที่มีขอบเขตจำกัด ชัดเจน
และมีการเรียนรู้ในขอบข่ายความรู้และทักษะที่ชัดเจนมากกว่า ส่วน Collaborative
Learning มีการจัดโครงสร้างล่วงหน้าน้อยกว่า
เกี่ยวข้องกับงานที่มีการจัดโครงสร้างแบบหลวมๆ (ill – Structure Task) เพื่อให้ได้คำตอบที่ยืดหยุ่นหลากหลาย
และมีการเรียนรู้ในขอบข่ายความรู้และทักษะที่ไม่จำกัดตายตัว
ในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับสภาพการเรียนการสอนออนไลน์มักนิยมใช้คำว่าCollaborative
Learning Office of Educational Research and Improvement (1992)
ได้ให้ความหมายของ Cooperative Learning ว่าเป็นกลยุทธ์ทางการสอนที่ประสบผลสำเร็จในทีมขนาดเล็ก
ที่ซึ่งนักเรียนมีระดับความสามารถแตกต่างกัน ใช้ความหลากหลายของกิจกรรมการเรียนรู้
เพื่อการปรับปรุงความเข้าใจต่อเนื้อหาวิชา
สมาชิกแต่ละคนในทีมมีความรับผิดชอบไม่เพียงแต่เฉพาะการเรียนรู้แต่ยังรวมถึงการช่วยเหลือเพื่อนร่วมทีมในการเรียนรู้ด้วย
นอกจากนี้ยังมีการสร้างบรรยากาศเพื่อให้บังเกิดการบรรลุผลสำเร็จที่ตั้งไว้ด้วย
ณัชชากัญญ์
วิรัตนชัยวรรณ.(2536).เป็นกลุ่มย่อยโดยมีสมาชิกกลุ่มที่มีความสามารถแตกต่างกันประมาณ
3 – 6 คน
ช่วยกันเรียนรู้เพื่อไปสู่เป้าหมายของกลุ่ม
โดยผู้เรียนมีปฏิสัมพันธ์ระหว่างกันในลักษณะแข่งขันกัน ต่างคนต่างเรียนและ
ร่วมมือกันหรือช่วยกันในการเรียนรู้ นอกจากนั้นแล้วทฤษฎีการเรียนรู้ยังสามารถแบ่งได้ดังต่อไปนี้อีกด้วย
คือ
- ทฤษฎีการเรียนรู้ที่เป็นพื้นฐาน
- ทฤษฎีจากกลุ่มพฤติกรรมนิยม
-
กลุ่มความรู้ (Cognitive)
รังสิมา วงษ์ตระกูล. (2552).ได้กล่าวถึงแนวคิดการเรียนรู้แบบร่วมมือไว้ว่า
การเรียนรู้แบบร่วมมือกันหรือการร่วมมือกันเรียนรู้
เป็นแนวคิดในการจัดการเรียนการสอนเพื่อให้นักเรียนได้ร่วมมือกันเรียนรู้และปฏิบัติกิจกรรมให้ประสบผลสำเร็จตามจุดมุ่งหมาย
จึงถือได้ว่าการเรียนการสอนแบบร่วมมือกันเรียนรู้
เป็นการจัดการเรียนการสอนที่ยึดผู้เรียนเป็นสำคัญรูปแบบหนึ่ง
ซึ่งนักการศึกษาที่สำคัญในวงการศึกษาได้ให้ความหมายของการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือไว้ดังนี้
จอห์นสัน
และจอห์นสัน ได้ให้ความรู้ของการเรียนรู้แบบร่วมมือไว้ว่า การจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ
เป็นการสร้างความสัมพันธ์ภายในกลุ่มผู้เรียนซึ่งต้องการการพึ่งพาและเกื้อกูลกัน(ล้มเหลวหรือประสบความสำเร็จร่วมกัน),ความรับผิดชอบที่ตรวจสอบได้ของสมาชิกแต่ละคน,การใช้ทักษะปฏิสัมพันธ์ระหว่างบุคคล(การติดต่อสื่อสาร,ความเชื่อมั่น,ความเป็นผู้นำ,การตัดสินใจ,การลดความขัดแย้ง),การปรึกษาหารือกันอย่างใกล้ชิด,และกระบวนการ(สิ่งที่สะท้อนกลับคือประสิทธิภาพในการทำงานดีขึ้นอย่างไรและดีขึ้นมากแค่ไหน(Johnson
และ Johnson. Online.
2009)
นอกจากของจอห์นสัน ยังมีนักการศึกษาของไทยเราได้ให้ความหมายของการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือไว้อีกเช่น
ของอาจารย์สุวิทย์ และอาจารย์อรทัย มูลคำได้ให้ความหมายไว้ว่า การจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ หมายถึง
กระบวนการการเรียนรู้ที่จัดให้ผู้เรียนได้ร่วมมือและช่วยเหลือกันในการเรียนรู้โดยแบ่งกลุ่มผู้เรียนที่มีความสามารถต่างกันออกเป็นกลุ่มเล็กๆ
ซึ่งเป็นลักษณะการรวมกลุ่มอย่างมีโครงสร้างที่ชัดเจน มีการทำงานร่วมกัน
มีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็น มีการช่วยเหลือพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกัน
มีความรับผิดชอบร่วมกันทั้งในส่วนตนและส่วนรวม
เพื่อให้ตนเองและสมาชิกทุกคนในกลุ่มประสบความสำเร็จตามเป้าหมายที่กำหนด
สรุป
การเรียนรู้แบบร่วมมือ หมายถึง
การจัดกิจกรรมการเรียนรู้สำหรับผู้เรียนตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป
หรือแบ่งผู้เรียนออกเป็นกลุ่มเล็กๆ ตามความสามารถของผู้เรียน
โดยให้ผู้เรียนได้ฝึกการทำงานเป็น กลุ่ม ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน
ฝึกความรับผิดชอบร่วมกัน และการใช้ทักษะปฏิสัมพันธ์ระหว่างบุคคล
เพื่อทำให้กลุ่มประสบความสำเร็จร่วมกันตามเป้าหมายที่กำหนดไว้
ที่มา
ณัชชากัญญ์
วิรัตนชัยวรรณ.(2536). (https://www.l3nr.org/posts/386486).[Online] เข้าถึงเมื่อวันที่ 12กรกฎาคม 2561.
รังสิมา
วงษ์ตระกูล.(2552). (https://www.gotoknow.org/posts/401180.การเรียนรู้แบบร่วมมือคือ อะไร)[online].เข้าถึงเมื่อวันที่
12กรกฎาคม 2561.
อัชรา
เอิบสุขสิริ. เอกสารประกอบการเรียนวิชาจิตวิทยาสำหรับครู. มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร
: กรุงเทพมหานคร.
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น